ราคาคริปโตวันนี้

1. # Name (ชื่อ) ราคา 24h% 7d% ปริมาณการซื้อขาย (24ชม.) มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด

ราคาคริปโตและกราฟ

ข้อมูลในหน้านี้มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไปเท่านั้น ข้อมูลในบทความนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำทางภาษี กฎหมาย การเงิน หรือคำแนะนำด้านการลงทุน และไม่มีเจตนาให้ถือเป็นการแนะนำสำหรับการซื้อ ซื้อขาย หรือการขายสินทรัพย์คริปโตคริปโตแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ดิจิทัลใด ๆ มีไว้เพื่อประกอบการอธิบายเท่านั้น สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง คุณควรตระหนักถึงระดับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านก่อนเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โปรดศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนเพื่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล เราขอแนะนำให้ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือและมีคุณสมบัติเหมาะสมจากแหล่งอื่นก่อนดำเนินการใด ๆ รวมถึงเรื่องภาษีของคุณ ความสูญเสียใด ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูล สินทรัพย์คริปโต หรือผลกำไร ถือเป็นความรับผิดชอบของคุณแต่เพียงผู้เดียว Ledger จะไม่รับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นจากการทำตามความเห็นหรือข้อความใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในที่นี้ หรือจากการละเว้นข้อมูลใด ๆ ก็ตาม

ฉันจะตรวจสอบราคาคริปโตล่าสุดได้จากที่ใด?

เนื่องจากความผันผวนของตลาด การติดตามราคา Bitcoin, Ethereum และคริปโตอื่น ๆ อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย

แต่ด้วย Ledger คุณจะสามารถติดตามตลาดคริปโตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างง่ายดาย บนเว็บไซต์และแอป Ledger Live ของเรา คุณสามารถค้นหาราคาล่าสุด ทิศทางมูลค่า ปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมง กราฟแสดงผลการดำเนินงานในอดีต มูลค่าตามราคาตลาด จำนวนเหรียญหรือโทเคนที่หมุนเวียน และข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมาย

Ledger คำนวณราคาคริปโตอย่างไร?

Ledger อาศัย API ของ CoinGecko ในการดึงข้อมูลราคา ข้อมูลตลาดในอดีต ปริมาณการซื้อขายในตลาด และคู่การซื้อขายแบบเรียลไทม์ โดย CoinGecko นั้นใช้สูตรราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณทั่วโลกที่รวมราคาสินทรัพย์จาก Exchange ต่าง ๆ หลาย ๆ แห่ง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ CoinGecko ใช้เพื่อติดตามราคาและตัวชี้วัดอื่น ๆ โปรดดูที่หน้าขั้นตอนและวิธีการ

Ledger แสดงรายการคริปโตทั้งหมดบนเว็บไซต์หรือไม่?

Ledger ไม่ได้แสดงรายการคริปโตทั้งหมดบนเว็บไซต์ เนื่องจากจะต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อคัดกรองคริปโตก่อน

ทำไมราคาคริปโตจากแต่ละ Exchange จึงต่างกัน?

เราเรียกสิ่งนี้ว่าส่วนต่างของราคา

ทั้งนี้ มีหลายสาเหตุที่ทำให้ราคาคริปโตของแต่ละ Exchange แตกต่างกัน ดังนี้

• ค่าธรรมเนียม: แต่ละ Exchange มีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันสำหรับการซื้อหรือขายสินทรัพย์
• ปริมาณการซื้อขายและสภาพคล่อง: ปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่ามักนำมาซึ่งสภาพคล่องที่มากกว่า
• ขนาดของคำสั่งซื้อขาย: ทุก Exchange ที่มีช่วงราคาและปริมาณคำสั่งซื้อที่ไม่เท่ากัน
• อารมณ์ของตลาดและการปั่นราคา: เมื่อนักเทรดดันราคาขึ้นใน Exchange หนึ่ง อาจส่งผลให้ราคาบน Exchange อื่น ๆ สูงขึ้นตามไปด้วย

อะไรเป็นปัจจัยกำหนดราคาและมูลค่าของคริปโต?

ราคาคริปโตส่วนใหญ่จะถูกกำหนดโดยสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย คริปโตส่วนใหญ่มีการกระจายและจำกัดโดยอุปทานสูงสุด ยิ่งความต้องการในคริปโตมีมาก ราคาก็จะยิ่งสูงตาม แต่หากความต้องการในคริปโตมีน้อย ราคาก็จะลดลง เมื่ออุปสงค์และอุปทานมีใกล้เคียงกัน ตลาดจะมีเสถียรภาพ

นอกจากนี้ ราคายังสามารถผันผวนได้อย่างรวดเร็วตามข่าวสารหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ สุดท้าย ความกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัย (FUD) ก็สามารถทำให้ราคาตกได้เช่นกัน

คริปโตใดที่เหมาะแก่การลงทุนที่สุด?

Ledger ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุนเกี่ยวกับเหรียญคริปโต โทเคน หรือสินทรัพย์ใด ๆ ที่ควรลงทุน และ Ledger ไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเวลาในการซื้อหรือขายคริปโตเช่นกัน โปรดจำไว้ว่าราคา ผลตอบแทน และมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินสามารถเปลี่ยนแปลงได้ การลงทุนเงินทุนใด ๆ ล้วนมีความเสี่ยง

มูลค่าคริปโตตามราคาตลาด

มูลค่าคริปโตตามราคาตลาดคืออะไร?

มูลค่าคริปโตตามราคาตลาด (หรือ Crypto Market Cap) คือหนึ่งในตัวชี้วัดที่ใช้วัดขนาดและความนิยมของคริปโต คริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูงมักจะอยู่ในอันดับต้น ๆ และมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า

เราจะคำนวณมูลค่าคริปโตตามราคาตลาดอย่างไร?

มูลค่าคริปโตตามราคาตลาดจะคำนวณโดยนำจำนวนเหรียญทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่มาคูณกับราคาปัจจุบันของเหรียญนั้น

คริปโตใดที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด?

มูลค่าคริปโตตามราคาตลาดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก:

• Large-cap: >$1 หมื่นล้าน
• Mid-cap: $1 พันล้าน – $1 หมื่นล้าน
• Small-cap: <$1 พันล้าน

คริปโตที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เช่น Bitcoin และ Ethereum จะจัดอยู่ในกลุ่ม ‘ขนาดใหญ่’ โพรโทคอลเหล่านี้มีความมั่นคง และมีชุมชนของนักพัฒนาที่แข็งแกร่งคอยดูแล พัฒนา และสร้างโปรเจกต์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ

โปรดทราบว่ามูลค่าตามราคาตลาดของคริปโตอาจดูสูงเกินจริงได้จากความผันผวนของราคา หรือเศรษฐศาสตร์อุปทานของเหรียญและโทเคน เพื่อให้เข้าใจมูลค่าของคริปโตอย่างถูกต้องยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้วิเคราะห์ตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น ปริมาณการซื้อขาย สภาพคล่อง และการประเมินมูลค่าตลาดรวมของโทเคนทั้งหมดด้วย

Bitcoin Dominance คืออะไร?

Bitcoin Dominance คืออัตราสัดส่วนการครองตลาดที่สูงของ Bitcoin เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวมของ Altcoin โดย Altcoins ย่อมาจาก “Alternatives to BTC” หมายถึงคริปโตอื่น ๆ ทั้งหมดที่ไม่ใช่ Bitcoin อัตราสัดส่วนการครองตลาดที่สูงของ Bitcoin คือการบ่งชี้ว่ามีเงินทุนไหลเข้าสู่ Bitcoin มากกว่าคริปโตอื่น ๆ

อะไรคือความแตกต่างระหว่างเหรียญและโทเคน?

เหรียญและโทเคนต่างก็เป็นรูปแบบหนึ่งของสินทรัพย์ดิจิทัล แต่มีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน

เหรียญคือสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นของบล็อกเชนใดบล็อกเชนหนึ่งโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น เหรียญที่เป็นของบล็อกเชน Bitcoin คือ BTC ส่วนบล็อกเชนของ Ethereum ก็มีเหรียญของตัวเองคือ ETH เหรียญคริปโตเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น เก็บมูลค่า ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน หรือใช้ชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เป็นต้น

ส่วนโทเคนนั้นไม่ได้เป็นของบล็อกเชนใดบล็อกเชนหนึ่ง แต่จะถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชนโดยใช้สัญญาอัจฉริยะเป็นส่วนใหญ่ โทเคนสามารถแทนสินทรัพย์ได้หลากหลาย เช่น หุ้นใน DAO, ผลิตภัณฑ์ดิจิทัล, NFT, หรือแม้แต่สินค้าจริงที่สามารถจับต้องได้

บล็อกเชนหนึ่งแห่งสามารถมีเหรียญได้เพียงหนึ่งเหรียญเท่านั้น แต่สามารถใช้เพื่อสร้างสินทรัพย์ที่เรียกว่าโทเคนได้นับร้อย ตัวอย่างเช่น มีโทเคนจำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชนของ Ethereum เช่น MATIC, LINK และ USDT

เหรียญและโทเคนประเภทต่าง ๆ

ปัจจุบันมีเหรียญและโทเคนนั้นมีอยู่หลายประเภท เช่น Utility Token, โทเคนสำหรับแลกเปลี่ยน, โทเคนสำหรับชำระเงิน, Security Tokens, Stablecoin, โทเคน DeFi, NFT, และโทเคนที่รองรับโดยสินทรัพย์

Utility Token คืออะไร?

Utility Token จะมีมูลค่าเฉพาะภายในระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แม้ว่าอาจจะมีมูลค่าในตลาดคริปโตทั่วไป แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ หรือสินทรัพย์สำหรับเก็บมูลค่าในระยะยาว Utility Token มักมีเป้าหมายเฉพาะภายในระบบนิเวศ เช่น ใช้เพื่อส่งเสริมการเติบโตหรือระดมทุน

ตัวอย่างของ Utility Token ได้แก่ LINK (Chainlink), UNI (Uniswap) และ Basic Attention Token (BAT)

Non-fungible Token (NFTs) คืออะไร?

NFT คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของของสิ่งที่มีความเฉพาะตัวหรือมีจำนวนจำกัด เช่น ทรัพย์สินที่จับต้องได้ซึ่งถูกแปลงให้เป็นโทเคน หรือทรัพยากรดิจิทัลหายาก NFT แต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่สามารถแทนที่กันได้ด้วยโทเคนอื่นที่เหมือนกัน NFT ส่วนใหญ่สร้างขึ้นตามมาตรฐาน ERC721

ตัวอย่างของ NFT ได้แก่ CryptoPunks, Bored Ape, การทวีตครั้งแรกของ Jack Dorsey, ผลงาน Crossroad ของ Beeple หรือผลงาน Everydays: the First 5000 Days

สเตเบิลคอยน์คืออะไร?

สเตเบิลคอยน์คือคริปโตประเภทหนึ่งที่มีมูลค่าตรึงกับราคาของสินทรัพย์อื่น ตัวอย่างเช่น หากราคาของสเตเบิลคอยน์หนึ่งตรึงอยู่กับดอลลาร์สหรัฐฯ สเตเบิลคอยน์นั้นก็จะมีมูลค่า 1 ดอลลาร์เสมอ

สเตเบิลคอยน์มีหลายประเภท ดังนี้:

• สเตเบิลคอยน์แบบ Fiat-Collateralized ตรึงไว้กับสกุลเงินตรา เช่น ยูโร ปอนด์ หรือดอลลาร์สหรัฐฯ มีการหนุนมูลค่าแบบ 1:1 โดยสเตเบิลคอยน์ทุกเหรียญจะต้องมีจำนวนเงินตราที่เท่ากันสำรองไว้ในบัญชีธนาคาร ผู้ใช้งานสามารถแลกสเตเบิลคอยน์เหล่านี้กลับเป็นเงินตราในสกุลที่สอดคล้องกัน และนำเข้าบัญชีธนาคารได้ ในขณะเดียวกัน สเตเบิลคอยน์จำนวนที่เท่ากันก็จะถูกนำออกจากการคำนวณหรือทำลาย
  ตัวอย่างของสเตเบิลคอยน์แบบรองรับด้วยเงินตราต่าง ๆ บนโลก (Fiat) ได้แก่: Tether (USDT), USD Coin (USDC), Gemini Dollar (GUSD), True USD (TUSD) และ Paxos Standard (PAX)
• สเตเบิลคอยน์ที่รองรับด้วยอัลกอริทึม ใช้อัลกอริทึมและสัญญาอัจฉริยะเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคา แทนการใช้เงินตราหรือคริปโตเป็นหลักประกัน
  ตัวอย่างของสเตเบิลคอยน์ที่รองรับด้วยอัลกอริทึม ได้แก่: Multi-Collateral Dai (DAI), Frax (FRAX), Magic Internet Money (MIM) และ USDD (USDD)
• สเตเบิลคอยน์ที่รองรับด้วยหลักประกัน จะมีคริปโตตัวอื่น ๆ เป็นหลักประกัน โดยจะทำสัญญาอัจฉริยะแทนตัวกลางที่เป็นผู้ออกเหรียญ หากต้องการรับสเตเบิลคอยน์เหล่านี้ ผู้ใช้ต้องนำคริปโตไปล็อกไว้ในสัญญาอัจฉริยะและจะได้รับโทเคนที่มีมูลค่าเท่ากัน หากต้องการถอนหลักประกันเดิม ผู้ใช้จะต้องนำสเตเบิลคอยน์ไปใส่คืนในสัญญาอัจฉริยะ
  ตัวอย่างของสเตเบิลคอยน์ที่รองรับด้วยหลักประกัน คือ Multi-Collateral Dai (DAI)
• สเตเบิลคอยน์ที่รองรับด้วยสินค้าโภคภัณฑ์ ใช้สินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น โลหะมีค่า น้ำมัน ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน เจ้าของสเตเบิลคอยน์ที่รองรับด้วยสินค้าโภคภัณฑ์จะมีสิทธิในการเป็นเจ้าของของสินทรัพย์ที่จับต้องได้และมีมูลค่าจริง
  ตัวอย่างของสเตเบิลคอยน์ที่รองรับด้วยสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่: Tether Gold (XAUT) และ Paxos Gold (PAXG)