คริปโตถูกขโมยได้อย่างไร และจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร

มีวิธีต่าง ๆ มากมายที่สแกมเมอร์สามารถขโมยคริปโตของคุณได้ แต่จะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร? ในบทความนี้ Ledger Academy อธิบายถึงวิธีต่าง ๆ ในการขโมยคริปโตและวิธีการปกป้องตัวคุณเองจากปัญหาดังกล่าว

เราทุกคนต่างทราบดีว่าการรักษาความปลอดภัยคริปโตของคุณขึ้นอยู่กับวอลเล็ตของคุณ แต่ช้าก่อน ยังมีภัยคุกคามบางอย่างที่วอลเล็ตไม่สามารถปกป้องคุณได้ – แม้แต่ Ledger ของคุณด้วย ดังนั้นคุณอาจสงสัยว่าใครจะขโมยคริปโตของฉันได้อย่างไร? ฉันปลอดภัยหรือไม่?

วิธีเดียวที่จะปลอดภัยจากโจรขโมยคริปโตคือการทำความเข้าใจกับภัยคุกคามประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเตรียมการป้องกันตัวเองได้ด้วย วอลเล็ตของคุณและความรู้ของคุณควรทำงานร่วมกันเพื่อรักษาคริปโตของคุณไว้ให้ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม การตรวจพบการสแกมคริปโตบางกรณีก็เป็นเรื่องยาก และการรักษาความปลอดภัยและความปลอดภัยของ Hardware Wallet ก็ปกป้องคุณไม่ได้เสมอไป ดังนั้นในบทความนี้ Ledger Academy จะอธิบายอย่างชัดเจนถึงวิธีที่ใครบางคนอาจขโมยคริปโตของคุณและวิธีหลีกเลี่ยง

เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย

คริปโตถูกขโมยได้อย่างไร?

คริปโตของคุณอาจถูกขโมยได้ในสองสามวิธี คุณอาจคิดว่าอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่การสแกมเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยเป็นปกติจนผู้คนไม่รู้ว่าสามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย ๆ แล้วแฮกเกอร์จะขโมยคริปโตของคนอื่นได้อย่างไร?

การเข้าถึง Private Key ของคุณผ่านอินเทอร์เน็ต

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อ Private Key ทุกสิ่งทุกอย่างที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต รวมถึงคริปโตวอลเล็ตก็มีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์เช่นกัน แค่นั้นเอง เนื่องจาก Software Wallet เก็บ Private Key ของคุณไว้ในอุปกรณ์โฮสต์ จึงมีความเสี่ยงต่อการโจมตีประเภทนี้เป็นพิเศษ

วิธีเดียวที่จะรักษาคีย์ของคุณให้ปลอดภัยจริง ๆ คือการใช้วอลเล็ตที่ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หลักการทั้งหมดของ Hardware Wallet เช่น อุปกรณ์ Ledger คือการเก็บทั้ง Private Key และวลีกู้คืน ไว้แบบออฟไลน์และห่างไกลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์

การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย

การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตรายอาจนำพาคุณไปยังเว็บไซต์ฟิชชิงได้ ซึ่งเว็บไซต์จะแจ้งเตือนให้คุณดาวน์โหลดไฟล์ที่จะทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงอุปกรณ์ web2 ของคุณ และอาจทำให้ Private Key ของคุณตกอยู่ในความเสี่ยงได้ หากแฮกเกอร์สามารถควบคุมหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของคุณได้ พวกเขาอาจสร้างสถานการณ์ให้คุณยอมมอบ Seed Phrase ผ่านทาง Social Engineering

วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่เป็นอันตรายคือหลีกเลี่ยงการท่องอินเทอร์เน็ตโดยใช้อุปกรณ์เครื่องเดียวกับที่คุณใช้จัดการคริปโต ด้วยวิธีนี้ อุปกรณ์ที่ติดไวรัสใด ๆ จะอยู่ห่างจากเงินทุนของคุณ

การเซ็นในธุรกรรมที่น่าสงสัย

หากคุณจะลงนามในธุรกรรมบล็อกเชน ควรตรวจสอบซ้ำสองสามครั้งก่อนคลิกยืนยัน แม้ว่าลายเซ็นบางอย่างอาจดูไม่เป็นอันตราย แต่คุณอาจเปิดโอกาสให้สแกมเมอร์ขโมยคริปโตของคุณได้ หากคุณคิดว่าคุณได้เซ็นในสิ่งที่คุณไม่ควรเซ็นไปแล้ว โปรดแน่ใจว่าได้ตรวจสอบการอนุมัติของคุณและยกเลิกหากจำเป็น

วิธีที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการเซ็นในธุรกรรมที่เป็นอันตรายคือการทำความเข้าใจถึงลักษณะและหน้าที่ของฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะแต่ละรายการ เพียงเรียนรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงสิ่งที่การอนุมัติแต่ละรายการจะสามารถช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครอง

การแฮ็กบนแพลตฟอร์มที่มีผู้รับฝากทรัพย์สิน

เมื่อคุณเซ็นอนุมัติให้แพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณ คุณจะต้องพึ่งพาความปลอดภัยของแพลตฟอร์มดังกล่าว ดังนั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้วอลเล็ตที่มีผู้รับฝากทรัพย์สิน คุณจะมอบความไว้วางใจให้ Private Key ของคุณกับหน่วยงานที่มีตัวกลางดังกล่าว หากหน่วยงานส่วนกลางถูกแฮ็ก คริปโตของคุณอาจถูกขโมยได้

ด้วยการใช้วอลเล็ตที่อนุญาตให้ใช้ self-custody เช่นที่ Ledger เสนอ คุณสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียคริปโตของคุณผ่านแพลตฟอร์มที่มีตัวกลางได้

บั๊กของสัญญาบนแพลตฟอร์มบล็อกเชน

การเซ็นอนุมัติด้วยวอลเล็ตของคุณแสดงว่าคุณอนุญาตให้แพลตฟอร์มเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณได้ โดยปกติแล้วสิ่งนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อแพลตฟอร์มและ Blockchain Bridge ที่เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม หากมีบั๊กในสัญญาอัจฉริยะ อาจเป็นโอกาสให้แฮกเกอร์ขโมยเงินทุนคริปโตของคุณได้ แม้ว่าคุณจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงบั๊กเหล่านี้ได้เสมอไป แต่การติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับบล็อกเชนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณทราบถึงการหาประโยชน์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

วิธีที่แฮกเกอร์ขโมยคริปโต

แฮกเกอร์บางคนไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ตหรือโค้ด แต่พวกเขาเล่นกับผู้คน Social Engineering เกี่ยวกับสแกมเมอร์ที่สร้างสถานการณ์ปลอมขึ้นมาเพื่อให้ได้ความไว้วางใจจากคุณ โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาหลอกคุณให้เปิดประตูสู่สินทรัพย์ของคุณเองโดยใช้ข้ออ้างที่เป็นเท็จ เราเห็นแนวทางนี้ในการโจมตี เช่น ฟิชชิงและฟาร์มมิง

Blind Signing: สวรรค์ของสแกมเมอร์

สัญญาอัจฉริยะช่วยให้ระบบนิเวศทั้งหมดของ Dapps ที่เราใช้งานอยู่ในปัจจุบันสามารถใช้งานได้ แต่ก็มีข้อแม้เล็กน้อย การอ่านลายเซ็นสัญญาอัจฉริยะอาจไม่ง่ายเสมอไป ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถแน่ใจได้ 100% ว่าคุณกำลังเซ็นอะไรอยู่ และเราเรียกสิ่งนี้ว่า Blind Signing กล่าวคือ สแกมเมอร์ใช้จุดบอดนี้โดยสร้างสถานการณ์ที่จะทำให้คุณต้องอนุมัติธุรกรรมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คุณอาจคิดว่าคุณกำลังสร้าง NFT แต่กลับกัน สัญญาอัจฉริยะจะขโมยคริปโตของคุณแทน

อุปกรณ์ Ledger เสนอ Clear Signing ซึ่งให้ความโปร่งใสกับคณได้มากกว่าที่เคยเมื่อคุณโต้ตอบผ่านระบบนิเวศ Ledger และยังช่วยเพิ่มชั้นการป้องกันขนาดใหญ่จากการสแกม Social Engineering

ไม่ว่าอุปกรณ์ Ledger จะปลอดภัยและโปร่งใสเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้สแกมเมอร์เข้าถึง Private Key ของคุณได้ หากคุณเป็นผู้ให้สิทธิ์เข้าถึงแก่พวกเขา นี่คือสาเหตุที่สำคัญมากที่จะต้องเรียนรู้วิธีการอ่านสัญญาอัจฉริยะ และวิธีหลีกเลี่ยง Blind Signing แต่เหนือสิ่งอื่นใด วิธีที่ง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยงสแกมเมอร์คือการใช้ความระมัดระวังกับสิ่งใด ๆ ก็ตามที่น่าสงสัย

วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกขโมยคริปโต

แน่นอนว่ามีเคล็ดลับสำคัญสองสามประการที่คุณควรจำไว้เพื่อปกป้องคริปโตของคุณ การหลีกเลี่ยงการโจรกรรมคริปโตไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีกฎพื้นฐานบางประการที่ต้องปฏิบัติตาม

อย่าเปิดเผย Private Key ของคุณ แม้ในขณะทำธุรกรรม

Private Key ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเงินทุนของคุณได้ อย่างไรก็ตาม ระบบจะให้สิทธิ์ผู้อื่นเข้าถึงด้วยเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาสามารถให้ Private Key ของคุณได้ นั่นเป็นเหตุผลที่การเก็บคีย์เหล่านั้นไว้เป็นความลับ…จึงเป็นเรื่องสำคัญ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณโต้ตอบกับแอปพลิเคชันออนไลน์?

อุปกรณ์ Ledger ช่วยรับประกันว่า Private Key ของคุณจะยังคงออฟไลน์ในขณะที่มีการสื่อสารเกี่ยวกับข้อมูลสำคัญทางออนไลน์เพื่อให้บล็อกเชนสามารถดำเนินธุรกรรมได้ หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านบทความฉบับเต็มเกี่ยวกับวิธีการทำงาน

สร้างวลีกู้คืนของคุณแบบออฟไลน์ และเก็บไว้แบบออฟไลน์

การรักษาความปลอดภัยให้กับคริปโตของคุณไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การย้าย Private Key ของคุณไปออฟไลน์เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการทำให้แน่ใจว่าคีย์เหล่านั้นจะไม่มีวันออนไลน์ตั้งแต่แรก

อุปกรณ์ Ledger จะสร้างวลีกู้คืนของคุณแบบออฟไลน์ตั้งแต่เริ่มต้น โดยให้ข้อมูลกับคุณในสภาพแวดล้อมแบบออฟไลน์โดยสมบูรณ์ผ่านหน้าจอที่ไม่สามารถแฮ็กได้ ซึ่งจะทำให้คุณควบคุมวอลเล็ตของคุณได้อย่างสมบูรณ์ และยังช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณจากอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

แต่ท้ายที่สุดแล้ว วิธีที่คุณจัดเก็บ Seed Phrase นั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณ – การเก็บไว้ในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อจะขัดกับจุดประสงค์ทั้งหมดของการใช้ Ledger เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการจัดเก็บวลีกู้คืนที่ปลอดภัยที่สุด ที่มีให้บริการ

แยกสินทรัพย์ของคุณ

อุปกรณ์ Ledger สามารถปกป้องคุณได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น หากคุณเซ็นธุรกรรมที่เป็นอันตรายด้วย Ledger ของคุณ เงินทุนของคุณจะยังคงมีความเสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาขโมยคริปโตของคุณ สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณทำได้คือแยกสินทรัพย์ของคุณอย่างถูกต้อง การแยกบัญชีสำหรับการสร้าง การขาย และการเก็บรักษาจะทำให้คุณปลอดภัยยิ่งขึ้น หากคุณเซ็นธุรกรรมที่เป็นอันตรายกับบัญชีหนึ่ง เงินทุนของคุณจะไม่สามารถถูกขโมยจากบัญชีอื่นได้ โชคดีที่คุณสามารถสร้างบัญชีหลายบัญชีบนอุปกรณ์ Ledger เครื่องเดียวของคุณได้ หากต้องการเรียนรู้วิธีดำเนินการนี้อย่างถูกต้อง โปรดอ่านคำแนะนำฉบับเต็มเกี่ยวกับวิธี Segregate Crypto Assets

ตราบใดที่คุณใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้องและรักษาวลีกู้คืนของคุณอย่างปลอดภัย เราก็สามารถเอาชนะภัยคุกคามเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้คุณสามารถลืมความกังวลและสำรวจระบบนิเวศได้

วิธีที่อุปกรณ์ Ledger ปกป้องคุณจากการโจรกรรมคริปโต

หากอุปกรณ์ของคุณตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี คุณอาจเผชิญกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนยิ่งกว่า นั่นก็คือ การแฮ็กอุปกรณ์ทางกายภาพ ด้วยการโจมตีที่ซับซ้อนจากแฮกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น Power Glitch, การโจมตีโดยการเก็บข้อมูลจากการทำงานของระบบ และการแฮ็กด้วยซอฟต์แวร์ เช่น Hardware Security Module Hardware Wallet ก็อาจมีความเสี่ยงได้หากไม่มีการเสริมความแข็งแกร่งที่เหมาะสม

Hardware Wallet ของ Ledger ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณจากการโจมตีทั้งทางออนไลน์และอุปกรณ์ทางกายภาพ มีปัจจัยสำคัญสองสามประการที่ทำให้อุปกรณ์ Ledger โดดเด่นในเรื่องชั้นการป้องกันต่อการโจมตีทางกายภาพ:

Secure Element: ชิปที่ไม่อาจเจาะทะลวงได้

Ledger ใช้ชิป Secure Element ซึ่งพบได้ในสิ่งของต่าง ๆ เช่น หนังสือเดินทางและบัตรเครดิตที่จำเป็นต้องมีการรักษาความปลอดภัยระดับสูง Ledger Hardware Wallet เป็นวอลเล็ตเพียงประเภทเดียวในอุตสาหกรรมที่ใช้ชิป Secure Element ชิปคุณภาพระดับสูงนี้จะปกป้องคุณและ Private Key จากการโจมตีต่าง ๆ เช่น การโจมตีด้วยเลเซอร์, การดัดแปลงแก้ไขด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า และ Power Glitch

ระบบปฏิบัติการ BOLOS: การแยกแอปพลิเคชันแต่ละรายการ

ปัญหาเกี่ยวกับ Hardware Wallet บางส่วนก็คือ วอลเล็ตเหล่านั้นใช้ระบบโมโนลิธิกเพื่อจัดการแอปพลิเคชันทั้งหมดที่อยู่ภายในเป็นหนึ่งเดียว ระบบปฏิบัติการที่กำหนดเองของ Ledger ซึ่งก็คือ BOLOS รับประกันว่าแอปทั้งหมดและบัญชีคริปโตภายในอุปกรณ์ Ledger ของคุณจะได้รับการจัดการแยกจากกัน สำหรับคุณ นั่นหมายความว่าแม้ว่าแอปพลิเคชันจะไม่ปลอดภัยจากการโจมตี ความเสียหายก็จะถูกแยกไปที่แอปพลิเคชันนั้นเท่านั้น โดยสรุปแล้วจะไม่ส่งผลกระทบต่อวอลเล็ตส่วนอื่นของคุณ

Donjon (ทีม Research ของ Ledger): ตรวจสอบความปลอดภัยของคุณอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้แน่ใจว่าวอลเล็ตของคุณปลอดภัยจากการแฮ็กอยู่เสมอ เรามีทีมแฮกเกอร์ภายในองค์กรที่ทำหน้าที่ทดสอบและค้นหาจุดอ่อนใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายในเกราะของเรา Ledger Donjon คือทีมประเมินความปลอดภัยภายในของเรา ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย โดยสรุป พวกเขาทำการแฮ็กฮาร์ดแวร์อย่างต่อเนื่องและครอบคลุม โดยระบุ Point of Failure ที่อาจเกิดขึ้นใด ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของคุณ Donjon ทำงานร่วมกับทีมพัฒนาเฟิร์มแวร์และฮาร์ดแวร์ของ Ledger เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ โดยพวกเขาจะร่วมกันตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ล้ำสมัยเท่านั้น นอกจากนี้ พวกเขายังมั่นใจว่าอุปกรณ์ Ledger สามารถทนต่อความพยายามในการโจมตีใด ๆ และทำการอัปเกรดระบบอย่างต่อเนื่อง

ภัยคุกคามทางกายภาพต้องใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ปลอดภัยที่สุด

การใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับ Private Key จะช่วยปกป้องคุณจากภัยคุกคามทางออนไลน์ แต่ก็อาจทำให้อุปกรณ์ของคุณเสี่ยงต่อการโจมตีทางกายภาพ นั่นคือเหตุผลที่การเลือกอุปกรณ์ที่ไม่เพียงแต่ใช้ส่วนประกอบที่ปลอดภัยที่สุดเท่านั้น แต่ยังพยายามปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดสามารถแทรกผ่านอุปกรณ์ได้อย่างแน่นอน

การเลือกใช้ Ledger จะช่วยให้คุณรักษา Private Key ของคุณให้ปลอดภัยและไม่ต้องกังวลเรื่องคีย์เหล่านั้นอีกต่อไป เพราะส่วนประกอบและระบบต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยรักษาวอลเล็ตของคุณให้ปลอดภัยจากการโจมตีทางกายภาพ

จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนขโมยคริปโตวอลเล็ต Ledger ของฉัน?

การใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เพื่อเก็บ Private Key ของคุณแบบออฟไลน์เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม แต่หมายความว่าคุณต้องระมัดระวังภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น การโจรกรรมหรือการตรวจสอบอุปกรณ์ สมมติว่ามีคนขโมย Ledger ของคุณ คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคริปโตอันล้ำค่าของคุณจะปลอดภัย แม้ว่าอุปกรณ์จะไปอยู่ในมือของคนแปลกหน้าก็ตาม?

รหัส PIN ที่คุณตั้งเอง

อุปกรณ์ Ledger มีฟังก์ชันรหัส PIN ซึ่งเป็นแนวหน้าในการป้องกันผู้บุกรุกและเป็นส่วนเดียวของการรักษาความปลอดภัยที่คุณกำหนดให้กับตัวเอง

นี่คือสาเหตุที่ Ledger อนุญาตให้คุณกำหนดรหัสของคุณเองได้และยังกำหนดความยาวได้สูงสุดถึง 8 หลักอีกด้วย สิ่งนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ Nano ของคุณไป จะมีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ และหากป้อนรหัส PIN ผิดสามครั้ง อุปกรณ์จะใช้งานไม่ได้โดยอัตโนมัติ (รีเซ็ตเป็นค่าจากโรงงาน) ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ของคุณสามารถป้องกันแม้แต่ขโมยที่พบโอกาสมากที่สุดได้

Passphrase ขั้นสูง

อุปกรณ์ส่วนใหญ่มีวลีกู้คืน 24 คำเป็นการสำรองข้อมูล Ledger ยังมี Passphrase คำที่ 25 เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูงที่เพิ่มชั้นความปลอดภัยพิเศษเพื่อรักษาเงินทุนของคุณให้เป็นความลับแม้ว่าคุณจะอยู่ภายใต้ความกดดันก็ตาม คำที่ 25 นี้ช่วยให้คุณเข้าถึงวอลเล็ต “ลับ” รองจากอุปกรณ์เครื่องประจำของคุณได้ วิธีนี้ทำให้คุณสามารถเก็บกองคริปโตไว้ในวอลเล็ตลับนี้และปกป้องไว้ได้ในทุกสถานการณ์

คุณเท่านั้นที่สามารถหยุดการขโมยคริปโตของคุณได้

ดังนั้นหากคุณสงสัยว่า “มีใครขโมยคริปโตของฉันได้อย่างไร?” ตอนนี้คุณก็รู้แล้ว หัวขโมยใช้การผสมผสานระหว่างการเขียนโปรแกรม ฟิชชิง และแม้กระทั่ง Social Engineering เพื่อหลอกให้คุณรู้สึกปลอดภัยแบบผิด ๆ จากจุดนั้น พวกเขาก็สามารถคว้าเงินทุนอันมีค่าของคุณมาได้ง่ายมาก และในความเป็นจริง มีการขโมยคริปโตด้วยวิธีนี้เกือบทุกวัน การหลีกเลี่ยงการถูกขโมยคริปโตนั้นทำได้ง่ายเพียงแค่ใช้อุปกรณ์ Ledger อย่างถูกต้อง แยกสินทรัพย์ของคุณออก และคอยระแวดระวัง นั่นเป็นเหตุผลที่การทำความเข้าใจระบบนิเวศของคริปโตและบทบาทของคุณในการรักษาความปลอดภัยของคริปโตจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของเหรียญและโทเคนของคุณ

Knowledge is Power

Blind Signing เป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่คุณต้องเผชิญในฐานะผู้ถือครองคริปโต โดยเราจะอธิบายอย่างละเอียดในส่วนนี้เพื่อให้คุณสามารถปกป้องตัวเองได้ ด้วย School of Block